บทที่10. กฎหมายและจริยธรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
"กฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ"
โดยคณะกรรมการสารสนเทศแห่งชาติ กสทช ได้ทำการศึกษาและยกร่างกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ 6ฉบับ ได้แก่
กฎหมายเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
กฎหมายเกี่ยวกับลายมือชื่อลิเล็กทรอนิกส์
กฎหมายเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศให้ทั่วถึงและเท่าเทียมกัน
กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
กฎหมายเกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
กฎหมายเกี่ยวกับการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
1.กฎหมายเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
เพื่อรับรองสถานการณ์ทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้เสมอด้วยกระดาษ เป็นการรับรองนิติสัมพันธ์ จัดทำขึ้นอยู่ในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การลงลายมือชื่อในข้อมูล การรับฟังพยานหลักฐานที่อยู่ในรูปแบบของข้อมูลลิเล็กทรอนิกส์
2.กฎหมายเกี่ยวกับลายมือชื่อลิเล็กทรอนิกส์
เพื่อรับรองการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้เสมอด้วยการลงลายมือชื่อธรรมดา ส่งผลต่อความเชื่อมั่นมากขึ้นในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กำกับให้มีการดูแลการให้บริการเกี่ยวกับลายมือชื่อ
3.กฎหมายเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศให้ทั่วถึงและเท่าเทียมกัน
เพื่อก่อให้เกิดการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศแห่งรัฐตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 78 ในการกระจายสารสนเทศให้ทั่วถึงและเท่าเทียมกัน
ช่วยลดความเหลื่อมหล้ำของสังคมเพื่อสนับสนุนให้ท้องมีศักภาพในการปกครองและนำไปสู้สังคมแห่งปัญญาและการเรียนรู้
4.กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อก่อให้เกิดการรับรองสิทธิและให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลถูกประมวลผลเปิดเผยหรือเผยแพร่ถึงบุคลจำนวนมากได้ จนอาจก่อให้เกิดการนำข้อมูลนั้นไปใช้ในทางมิชอบอันเป็นการละเมิดต่อเจ้าของข้อมูล
5.กฎหมายเกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
กำหนดมาตรการทางอาญาในการลงโทษผู้กระทำผิดต่อระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ระบบข้อมูลและเครือข่าย เป็นกลักประกันสิทธิภาพและกรคุ้มครอง
6.กฎหมายเกี่ยวกับการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
กำหนดกลไกสำคัญทางกฎหมายในการรับรองระบบการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ระบบการชำระเงินของอิเล็กทรอกนิกส์ก่อให้เกิดต่อระบบการทำธุระกรรมทางการเงินและการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น
อาชญากรรมทางคอมพพิวเตอร์
อาชญากรทางคอมพพิวเตอร์หลายรูปแบบ จัดออกเป็น 9 ประเภท
1.การขโมยข้อมูลทางอินเตอร์
2.อาญชญากรเอาระบบการสื่อสารมาปกปิดความผิดของตน
3.การละเมิดสิทธิปลอบแปลงรูปร่าง
4.ใช้ข้อมูลแพร่ภาพที่ไม่แหมาะสม
5.การใช้คอมพิวเตอร์ฟอกเงิน
6.อันธพาลคอมพิวเตอร์ที่เข้าไปก่อกวน
7.หลอกลวงให้เข้าร่วมค้าขายหรือลงทุนปลอม
8.แทรกแซงข้อมูลแล้วนำมาเป็นประโยชน์
9.ใช้คอมพิวเตอร์แอบโอนเงินบัญชีผู้อื่นเข้าตันเอง
กรณีศึกษาอาชญากรรมและกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ
กรณีที่1 กฎหมายกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า นายจ้างหรือผู้บังคับบัญชาสามารถเปิดดูและตรวจสอบอีเมลของลูกจ้างได้รวมทั้งดูแฟ้มข้อม฿ลต่างๆในฮาร์ดดิสก์คอมพิวเตอร์ของบริษัทได้
กรณีที่2 หากต้องการ copy รูปภาพหรือข้อความบนเว็บไซต์ของผ็อื่นมาใช้งานจำต้องขออณุญาตเจ้าของเสียก่อน
กรณีที่3 การหมิ่นประมาททางอินเตอร์เน็ต สามารถฟ้องร้องได้ทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง
การกล่าวทำให้เกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียงเกียรติคุณ
กรณีที่4 การทำhyperlink ไม่ให้ละเมิดลิขสิทธิ์
การอ้างอิงเว็ปไซต์ของผู้อื่นมาใส่ในเว็บของเราควรขออนุญาตเจ้าของสิทธิ์ให้เรียบร้อย
กรณีที่5 โหลดโปรแกรมหรือเพลงทางอินเทอร์เน็ต
กรณีที่6ชื้อโปรแกรมลิขสิทธิ์มา copy
ตามกฎหมาย เรียกว่า ทำซ้ำ ซึ่งถือป็นการละเมิด แม้กฎหมายจะมีข้อยกเว้นให้ทำสำเนาโดยเจ้าของโปรแกรมทำได้ไม่ผิดกฎหมาย เพื่อการบำรุงหรือรักษาป้องกันการสูนหาย คือสำเนาได้เฉพาะ backup
0004101 คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศในชีวิตประจำวัน
วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
บทที่9. ไอซีทีอย่างรู้เท่าทัน
บทที่9. ไอซีทีอย่างรู้เท่าทัน
ภัยที่มากับอินเทอร์เน็ต
แบ่งออกเป็น 3ส่วนหลักๆดังนี ภัยที่มีผลทางด้านข้อมูล หรือ กับระบบคอมพิวเตอร์ ภัยที่มีผลทางด้านสังคม ภัยที่มีผลต่อสุขภาพ 1. ภัยที่มีผลทางด้ารข้อมูล หรือ ระบบ 1.1 วายร้ายโจรกรรมข้อมูล - การสอดแนม หมายถึง การดักจับหรือแอบดูข้อมูล โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล - ฟิชชิง เป็นการปลอมอีเมลหรือเว็บไซต์เพื่อหลอกลวง เพื่อต้องการข้อมูลสำคัญจากผู้ถูกหลอกใช้ - สปายแวร์ เป็นซอฟแวร์ที่ฝังตัวอยุ่ในเครื่องโดยทำพฤติกกรมไม่พึงประสงศ์บางอย่าง เช่น พยายามโฆษณาสินค้า รวบรวมข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้ 1.2 วายร้ายทำลายข้อมูล ประเภทของมัลแวร์ ได้แก่ - ไวรัส - เวิร์ม - โทรจัน 1.3 วายร้ายแทรกแซงการทำงาน สแปม - การส่งข้อมูลรองรับที่ผู้รับไม่ได้ร้องขอ จนทำให้ผู้รับเกิดความรำคาญรวมถึงเป็นการก่อกวน โดยมีประสงศ์ที่ต่างๆ กัน - สแปมสามารถทำแผ่นสื่อหลายๆ - หากเราพบกับภัยที่มาจากอีเมลที่ไม่แน่ใจว่ามีไวรัส หรือภาพโป้ฟอรืเวิร์มอีเมลที่ไรสาระ ถ้ามี อีเมลที่เราไม่รุ้จักเข้ามา ก้ควรลบทิ้ง 2. ภัยที่ทีผลทางด้านสังคม 2.1 ภัยจากการแชท - การแชท หมายถึง การพูกคุยกับอินเทอร์เน็ต - เป็นภัยด้ารสังคมจากอินเทอร์เน็ตที่พบง่ายและบ่อยที่สุด - การแชทกับคนแปลกหน้าถ้าเราเผลอให้ข้อมูลส่วนตัว หรือนัดเจอ เราอาจตกเป็น เหยื่อของคนเหล่านี้ได้ - การแชทโดยไม่มีขอบเขต จะนำไปสู่การถูกล่อลวง ไปทำเรื่องมิร้ายจนเป็นการสร้าง ปัญหาให้กับสังคม 2.2 ภัยจากการเล่นเกมส์ออนไลน์ - ปัจุบันเกมส์ออนไลมีมาก - นักเรียนต้องข่มใจตนเอง - สิ่งเหล่านี้เป็นตัวปั่นทอนทำให้เสียสุขภาพกาย 3. ภัยที่มีผลต่อสุขภาพ 3.1 ภัยที่มีผลต่อสุขภาพ 1. ดวงตา - การจ้องจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานมีผลต่อกล้ามเนื้อและระบบ ประสาทตา 2. ระบบประสาท - คลื่อแม่เหล็กไฟฟ้าของคอมพิวเตอร์อาจมีผลต่อระบบประสาท - แต่การรับรังสีเป็นเวลานานก็อาจจะส่งผลกระทบถึงระบบประสาท 3. ระบบสืบพันธุ์ - คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปหรือโน็ตบุ๊ก ที่หลายคนชอบวางไว้บนหน้าตักจะทำให้อุณหภูมิที่ อันฑะสูงขึ้นซึ่งมีผลต้อการสร้างสเปริมของผู้ชายทุกคน ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นหมัน แนวทางการป้องกัน 2.3 แนวทางในการป้องกันอันตรายจากอินเทอร์เน็ต 1. ไม่เปิดเผ่ยข้อมูลส่วนตัว 2. ไม่ส่งหลักฐานส่วนตัวของตนเองและครอบครัวให้ผู้อื่น 3. ไม่ควรโอนเงินให้ใครอย่างเด้ดขาด 4. ไม่ควรออกไปพบเพื่อนทางอินเทอร์เน็ตและโฆษณาชวนเชื่ออื่นๆ 5. ระมัดระวังการซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต และโฆษณาชวนเชื่ออื่นๆ 6. ควรขอกพ่อแม่หรือผู้ปกครองหรือคุนครู ถ้าถูกกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต
ภัยที่มากับอินเทอร์เน็ต
แบ่งออกเป็น 3ส่วนหลักๆดังนี ภัยที่มีผลทางด้านข้อมูล หรือ กับระบบคอมพิวเตอร์ ภัยที่มีผลทางด้านสังคม ภัยที่มีผลต่อสุขภาพ 1. ภัยที่มีผลทางด้ารข้อมูล หรือ ระบบ 1.1 วายร้ายโจรกรรมข้อมูล - การสอดแนม หมายถึง การดักจับหรือแอบดูข้อมูล โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล - ฟิชชิง เป็นการปลอมอีเมลหรือเว็บไซต์เพื่อหลอกลวง เพื่อต้องการข้อมูลสำคัญจากผู้ถูกหลอกใช้ - สปายแวร์ เป็นซอฟแวร์ที่ฝังตัวอยุ่ในเครื่องโดยทำพฤติกกรมไม่พึงประสงศ์บางอย่าง เช่น พยายามโฆษณาสินค้า รวบรวมข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้ 1.2 วายร้ายทำลายข้อมูล ประเภทของมัลแวร์ ได้แก่ - ไวรัส - เวิร์ม - โทรจัน 1.3 วายร้ายแทรกแซงการทำงาน สแปม - การส่งข้อมูลรองรับที่ผู้รับไม่ได้ร้องขอ จนทำให้ผู้รับเกิดความรำคาญรวมถึงเป็นการก่อกวน โดยมีประสงศ์ที่ต่างๆ กัน - สแปมสามารถทำแผ่นสื่อหลายๆ - หากเราพบกับภัยที่มาจากอีเมลที่ไม่แน่ใจว่ามีไวรัส หรือภาพโป้ฟอรืเวิร์มอีเมลที่ไรสาระ ถ้ามี อีเมลที่เราไม่รุ้จักเข้ามา ก้ควรลบทิ้ง 2. ภัยที่ทีผลทางด้านสังคม 2.1 ภัยจากการแชท - การแชท หมายถึง การพูกคุยกับอินเทอร์เน็ต - เป็นภัยด้ารสังคมจากอินเทอร์เน็ตที่พบง่ายและบ่อยที่สุด - การแชทกับคนแปลกหน้าถ้าเราเผลอให้ข้อมูลส่วนตัว หรือนัดเจอ เราอาจตกเป็น เหยื่อของคนเหล่านี้ได้ - การแชทโดยไม่มีขอบเขต จะนำไปสู่การถูกล่อลวง ไปทำเรื่องมิร้ายจนเป็นการสร้าง ปัญหาให้กับสังคม 2.2 ภัยจากการเล่นเกมส์ออนไลน์ - ปัจุบันเกมส์ออนไลมีมาก - นักเรียนต้องข่มใจตนเอง - สิ่งเหล่านี้เป็นตัวปั่นทอนทำให้เสียสุขภาพกาย 3. ภัยที่มีผลต่อสุขภาพ 3.1 ภัยที่มีผลต่อสุขภาพ 1. ดวงตา - การจ้องจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานมีผลต่อกล้ามเนื้อและระบบ ประสาทตา 2. ระบบประสาท - คลื่อแม่เหล็กไฟฟ้าของคอมพิวเตอร์อาจมีผลต่อระบบประสาท - แต่การรับรังสีเป็นเวลานานก็อาจจะส่งผลกระทบถึงระบบประสาท 3. ระบบสืบพันธุ์ - คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปหรือโน็ตบุ๊ก ที่หลายคนชอบวางไว้บนหน้าตักจะทำให้อุณหภูมิที่ อันฑะสูงขึ้นซึ่งมีผลต้อการสร้างสเปริมของผู้ชายทุกคน ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นหมัน แนวทางการป้องกัน 2.3 แนวทางในการป้องกันอันตรายจากอินเทอร์เน็ต 1. ไม่เปิดเผ่ยข้อมูลส่วนตัว 2. ไม่ส่งหลักฐานส่วนตัวของตนเองและครอบครัวให้ผู้อื่น 3. ไม่ควรโอนเงินให้ใครอย่างเด้ดขาด 4. ไม่ควรออกไปพบเพื่อนทางอินเทอร์เน็ตและโฆษณาชวนเชื่ออื่นๆ 5. ระมัดระวังการซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต และโฆษณาชวนเชื่ออื่นๆ 6. ควรขอกพ่อแม่หรือผู้ปกครองหรือคุนครู ถ้าถูกกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต
บทที่8. ชีวิตง่ายๆ ในโลกดิจิทัล
บทที่8. ชีวิตง่ายๆ ในโลกดิจิทัล
พานิชย์อิเล็กทรอนิกส์
การใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่กว้างไกล
ทำให้ผู้คนในพื้นที่ต่างๆ ใช้ระบบอินเทอร์เน็ตได้อย่างกว้างขวางไร้พรมแดน
ผู้ที่นำเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตมาสร้างโอกาศทางธุรกิจ
ทำให้เกิดพัฒนาการในโลยีใช้ประกอบการทำธุรกิจ เติบโตขึ้นจนกลายเป็นการค้าผ่านทางช่วงทางอินเทอร์เน็ต
ความสำคัญของอิเล็กทรอนิกส์ พิจารณาได้จากคุณสมบัติของพิานิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 8 ประการ ดังนี้
ใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา
เข้าถึงได้ทั่ว
การมีมาตราฐานสากล
การรองรับสืออย่างครบถ้วนสมบูรณ์
การมีปฏิสัมพันธ์
การมีข้อมูลที่รองรับการใช้งานมาก
การตอบสนองต่อความต้องการของแต่ละบุคคล
การมีเทคโนโลยีสังคม
ความหมายของธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ และพานิชอิเล็กทรอนิกส์
ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ E-Business หมายถึง การดำเนินกิจการทางธุรกิจ ต่างๆ ผ่านสืออิเล็กทรอนิกส์ การใช้คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และอินเทอร์เน็ต
การติดต่อสื่อสารและประสารการทำงานร่วมกัน
การพานิชย์อิเล็ดทรอนิกส์
ระบบธุรกิจภายในองศ์การ
รูปแบบของกำหนดเนินการพานิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พิจารณาในมุมมองของผู้จำหน่ายสินค้า สามารถดำเนินการได้ 2 รูปแบบ
มีร้านจำหน่ายสินค้าและขายเว็บไซต์ด้วย
- ผู้จำหน่ายสินค้ามีการเปิดร้านจำหน่ายสินค้าอยู่จริง
- มีเว็บไซต์เป็นอีกช่องทางในการทำการค้า
- มีการเชื่อมโยงทั้งสองทางเข้าด้วยกัน
- ขยายความสามารถของร้านค้าให้เข้าถึงผู้ซื้อได้มากขึ้น
- สร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าได้มาก
2. มีการจำหน่ายสินค้าผ่านทางเว็บไซต์เพียงอย่างเดียว
- ผู้จำหน่ายสินค้ามีเพียงเว็บไซต์เพียงช่วงทางเดียวในการทำการค้า
- สะดวดสำหรับผู้ที่เริ่มลงทุนเพราะใช้ต้นทุนน้อย
ประเภทของพานิชย์อิเล็กทรอนิกส์
จากหลักการคู่ค้าเมื่อพิจรณาความเกี่ยวข้องกับการพานิชย์อิเล็กทรอนิกส์แล้วจะแบ่งกลุ่มบุคคลที่มีความเกี่ยวข้อออกเป็น 3 กลุ่มได้แก่
- กลุ่มธุรกิจ
- กลุ่มรัฐบาล
- กลุ่มประชาชน ผู้บริโภค หรือลูกค้า
ประเภทสินค้าและบริการที่พบของพานิชย์อิเล็กทรอนิกส์
กลุ่มสินค้าที่จับต้องได้
- เป็นสินค้าใรรูปวัตถุสิ่งของ เช่น นาฬิกา โทรศัพท์ หนังสือ เป็นต้น
- ผู้ซื้อจะต้องอาศัยการสังเกตและความรอบคอบต่อผู้จำหน่าย
- ผู้ซื้อไม่สามารถจับต้องหรือเห็นสินค้าจริงก่อนสั่งซื้อ
- มึโอกาศได้สินค้าไม่ตรงกับความต้องการ
- ต้องอาศัยการจัดส่งมายังลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ
2. กลุ่มสินค้าที่จับต้องไม่ได้
- ให้ผู้ซื้อทำการดาวโหลด ภายหลังการชำระเงิน
- สินค้าได้แก่ เกมส์ เพลง หรือ โปรแกรมต่างๆ
- ข้อดี อาจมีตัวทดลองในลักษณะซอฟแวร์
- สิ่งที่ต้องระวังการซื้อสินค้าคือ
3. กลุ่มบริการ
- ไม่ได้ขายสินค้า แต่เน้นให้บริการ เช่น บรการจองตั๋วภาพยนตร์ จองตั๋วคอนเสิร์ต
- การบริการเหล่านี้ผู้ใช้บริการจะต้องตรวจสอบผู้ให้บริการ
กระบวนการ ซื้อสินค้าด้วยรูปแบบพานิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ขั้นที่ 1 การค้นค้า
ขั้นที่ 2 การเลือก
ขั้นที่ 3 การจัดส่งสินค้า
ขั้นที 4 การซื้อสินค้า และ บริการอิเล็กทรอนิกส์
ขั้นที่ 5 การบริการหลังการขาย
ขั้นที่ 6 การประเมินผลหลักการขาย
การชำระเงินผ่านบัตรชำระเงิน
บัตรเครดิต
เป็นบัตรที่มีการให้วงเงินพิเศษกับผู้ถือบัตร
ความปลอดภัยของข้อมูล
ผู้ให้บริการบัตรเครดิต
2.บัตรเดบิต
เป็นบัตรที่เชื่อมต่อวงเงินเข้ากับบัญชีเงินฝาก
ในกานใช้บัตรในการวื้อสินค้า
3. บัตรชาจต์
เป็นบัตรที่ใช้ซื้อสินค้าก่อนแล้วจ่ายภายหลัง
คล้ายบัตรเครดิต
ไม่มีการจำกัดวงเงินในการใช้จ่าย
สิ้นสุดการสนทนาผ่านแชท
พานิชย์อิเล็กทรอนิกส์
การใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่กว้างไกล
ทำให้ผู้คนในพื้นที่ต่างๆ ใช้ระบบอินเทอร์เน็ตได้อย่างกว้างขวางไร้พรมแดน
ผู้ที่นำเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตมาสร้างโอกาศทางธุรกิจ
ทำให้เกิดพัฒนาการในโลยีใช้ประกอบการทำธุรกิจ เติบโตขึ้นจนกลายเป็นการค้าผ่านทางช่วงทางอินเทอร์เน็ต
ความสำคัญของอิเล็กทรอนิกส์ พิจารณาได้จากคุณสมบัติของพิานิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 8 ประการ ดังนี้
ใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา
เข้าถึงได้ทั่ว
การมีมาตราฐานสากล
การรองรับสืออย่างครบถ้วนสมบูรณ์
การมีปฏิสัมพันธ์
การมีข้อมูลที่รองรับการใช้งานมาก
การตอบสนองต่อความต้องการของแต่ละบุคคล
การมีเทคโนโลยีสังคม
ความหมายของธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ และพานิชอิเล็กทรอนิกส์
ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ E-Business หมายถึง การดำเนินกิจการทางธุรกิจ ต่างๆ ผ่านสืออิเล็กทรอนิกส์ การใช้คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และอินเทอร์เน็ต
การติดต่อสื่อสารและประสารการทำงานร่วมกัน
การพานิชย์อิเล็ดทรอนิกส์
ระบบธุรกิจภายในองศ์การ
รูปแบบของกำหนดเนินการพานิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พิจารณาในมุมมองของผู้จำหน่ายสินค้า สามารถดำเนินการได้ 2 รูปแบบ
มีร้านจำหน่ายสินค้าและขายเว็บไซต์ด้วย
- ผู้จำหน่ายสินค้ามีการเปิดร้านจำหน่ายสินค้าอยู่จริง
- มีเว็บไซต์เป็นอีกช่องทางในการทำการค้า
- มีการเชื่อมโยงทั้งสองทางเข้าด้วยกัน
- ขยายความสามารถของร้านค้าให้เข้าถึงผู้ซื้อได้มากขึ้น
- สร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าได้มาก
2. มีการจำหน่ายสินค้าผ่านทางเว็บไซต์เพียงอย่างเดียว
- ผู้จำหน่ายสินค้ามีเพียงเว็บไซต์เพียงช่วงทางเดียวในการทำการค้า
- สะดวดสำหรับผู้ที่เริ่มลงทุนเพราะใช้ต้นทุนน้อย
ประเภทของพานิชย์อิเล็กทรอนิกส์
จากหลักการคู่ค้าเมื่อพิจรณาความเกี่ยวข้องกับการพานิชย์อิเล็กทรอนิกส์แล้วจะแบ่งกลุ่มบุคคลที่มีความเกี่ยวข้อออกเป็น 3 กลุ่มได้แก่
- กลุ่มธุรกิจ
- กลุ่มรัฐบาล
- กลุ่มประชาชน ผู้บริโภค หรือลูกค้า
ประเภทสินค้าและบริการที่พบของพานิชย์อิเล็กทรอนิกส์
กลุ่มสินค้าที่จับต้องได้
- เป็นสินค้าใรรูปวัตถุสิ่งของ เช่น นาฬิกา โทรศัพท์ หนังสือ เป็นต้น
- ผู้ซื้อจะต้องอาศัยการสังเกตและความรอบคอบต่อผู้จำหน่าย
- ผู้ซื้อไม่สามารถจับต้องหรือเห็นสินค้าจริงก่อนสั่งซื้อ
- มึโอกาศได้สินค้าไม่ตรงกับความต้องการ
- ต้องอาศัยการจัดส่งมายังลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ
2. กลุ่มสินค้าที่จับต้องไม่ได้
- ให้ผู้ซื้อทำการดาวโหลด ภายหลังการชำระเงิน
- สินค้าได้แก่ เกมส์ เพลง หรือ โปรแกรมต่างๆ
- ข้อดี อาจมีตัวทดลองในลักษณะซอฟแวร์
- สิ่งที่ต้องระวังการซื้อสินค้าคือ
3. กลุ่มบริการ
- ไม่ได้ขายสินค้า แต่เน้นให้บริการ เช่น บรการจองตั๋วภาพยนตร์ จองตั๋วคอนเสิร์ต
- การบริการเหล่านี้ผู้ใช้บริการจะต้องตรวจสอบผู้ให้บริการ
กระบวนการ ซื้อสินค้าด้วยรูปแบบพานิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ขั้นที่ 1 การค้นค้า
ขั้นที่ 2 การเลือก
ขั้นที่ 3 การจัดส่งสินค้า
ขั้นที 4 การซื้อสินค้า และ บริการอิเล็กทรอนิกส์
ขั้นที่ 5 การบริการหลังการขาย
ขั้นที่ 6 การประเมินผลหลักการขาย
การชำระเงินผ่านบัตรชำระเงิน
บัตรเครดิต
เป็นบัตรที่มีการให้วงเงินพิเศษกับผู้ถือบัตร
ความปลอดภัยของข้อมูล
ผู้ให้บริการบัตรเครดิต
2.บัตรเดบิต
เป็นบัตรที่เชื่อมต่อวงเงินเข้ากับบัญชีเงินฝาก
ในกานใช้บัตรในการวื้อสินค้า
3. บัตรชาจต์
เป็นบัตรที่ใช้ซื้อสินค้าก่อนแล้วจ่ายภายหลัง
คล้ายบัตรเครดิต
ไม่มีการจำกัดวงเงินในการใช้จ่าย
สิ้นสุดการสนทนาผ่านแชท
ข่าวครั้งที่4. ไอที (Thailand Mobile Expo 2017 Hi-End)
รวมมือถือฝาแฝดที่ได้แรงบันดาลใจจาก iPhone ในงาน Thailand Mobile Expo 2017 Hi-End
ถึงกับกระเป๋าตังสั่นเมื่อใกล้ถึง Thailand Mobile Expo 2017 Hi-End กลับมาพบทุกท่านอีกครั้ง จัดเต็มชุดใหญ่สมาร์ทโฟน Gadget ระดับ Hi-End อัพเดทเทคโนโลยีใหม่ จับจองเป็นเจ้าของ Smart Device ในราคาย่อมเยา โปรโมชั่นเสริมจากโอเปอร์เรเตอร์ 3 ค่าย พร้อมผ่อน 0%
จากหลากธนาคาร รับของแถมกลับบ้าน งวดก่อนทำสถิติไว้ 20 กว่ารายการ เรียกว่าต้องเอาถุงกระสอบมายกกลับ ! การันตีว่ามาซื้อของในงานคุ้มจริงๆ สำหรับวันนี้มีสมาร์ทโฟน – แท็บเล็ตมากมายมาแนะนำเช่นเคยครับ ทำการบ้าน ศึกษาข้อมูลให้ครบ แล้วเจอกัน
และสำหรับในวันนี้เราจะมานำเสนอมือถือรุ่นใหม่ในงาน Thailand Mobile Expo 2017 Hi-End ที่ได้รับแรงบันดาลใจในเรื่องการดีไซน์จาก iPhone
ข่าวครั้งที่3. ไอที Google Maps
Google Maps เพิ่มทางลัดเช็ค Street View ดูเส้นทางถนนจริงก่อนจะหลงทาง ขับรถเลย
เป็นปัญหาของคนใช้รถใช้ถนน กับ Google Maps ในการนำทางพอสมควรเหมือนกัน ที่ในบางจังหวะแอพฯ ก็สื่อสารกับเราไม่เข้าใจ เช่น บอกให้ชิดซ้าย เพื่อเลี้ยวไปยังถนนอีกเส้น แต่เราก็ดันไม่มั่นใจ ว่าถนนที่กำลังจะเลี้ยว ตรงกับที่ Google Maps บอกรึเปล่า? เพราะตรงนั้น ดันมีอยู่หลายเส้นให้เดาซะด้วย
ล่าสุด Google Maps เลยเพิ่มฟีเจอร์เล็กๆ ขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ โดยนำ Street View มาช่วยผู้ใช้งานให้เช็คเส้นทางได้แม่นยำมากขึ้น ซึ่งเมื่อเรากำหนดเส้นทางในการเดินทางได้แล้ว ในส่วนของรายการข้อมูลเส้นทาง (Route Info) จะมีรูป Thumbnail ของ Street View ให้เรากดเข้าไปเช็คเส้นทางบนถนนก่อนได้ แต่เอาจริงๆ แล้ว อยากให้สามารถเช็คได้แบบเรียลไทม์ระหว่างขับเลยมากกว่า เพราะจะทำการบ้านก่อน เจอเส้นทางยาวๆ ก็คงจำได้ไม่หมดจริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ หลายๆ คนที่ไม่คุ้นเส้นทางก็คงจะทำการบ้านด้วยการเปิด Street View ดูเหมือนกัน แต่กว่าจะลากไปเจอทางที่เราจะเดินทาง ก็กินเวลาและพลังงานไปพอสมควร แต่พอมีฟีเจอร์นี้ ก็เพิ่มความสะดวกสบาย ให้เราสามารถดูภาพเส้นทางนั้นๆ ได้อย่างตรงจุด ถึงจะเป็นฟีเจอร์เล็กๆ แต่ก็ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีเลย
โดยฟีเจอร์นี้ ได้เริ่มเปิดอัพเดทให้ใช้กันบนแอพ Google Maps ของทางฝั่ง Android ก่อน ส่วน iOS ก็น่าจะอัพเดทตามให้ใช้กันในเร็วๆ นี้ และคาดว่าฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นมา น่าจะมีลักษณะการใช้งานที่คล้ายๆ กัน
บทที่ 7. สังคมโลกเสมือน
บทที่ 7.สังคมโลกเสมือน
"'ความหมายของซอฟแวร์เครือข่ายสังคมออนไลน์"
· ซอฟต์แวร์ที่ทำให้ผู้คนสามารถนัดพบปะเชื่อมสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็นในเรื่องที่สนใจอย่างสร้างสรรค์ หรือทำงานร่วมกันโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง เกิดเป็นสังคมหรือชุมชนออนไลน์ ความหมายของซอฟต์แวร์เครือข่ายสังคมออนไลน์ แบ่งออกเป็น 4 ประเภทได้แก่ · 1.ประเภทของการบริหารจัดการความรู้ · 2.ประเภทเครื่องมือการติดต่อการสือสาร · 3. ประเภทเครื่องมือเพื่อร่วมประสานงานแบบทันทีทันใด · 4. ประเภทบริการสังคมเครือข่าย 1. ประเภทการบริหารการจัดการความรู้ · เครื่องมือประเภทจัดการความรู้ · เก็บเรื่องราว การบันทึก การถามคำถาม การตอบคำถาม · การแสดงความเห็นหรือมุมมองต่างๆ · ซอฟต์แวร์ในประเภทนี้ วิกิ (Wiki) · พัฒนาในด้สนการจัดการความรู้มากที่สุด · เปิดกว้างให้ทุกคนร่วมเขียนบทความ · เพิ่มและแก้ไขเนื้อหาได้โดยง่าย ซึ่งบางครั้งไม่จำเป็นต้องการลงทะเบียนเพื่อแก้ไข 2. ประเภทการติดต่อสื่อสาร · ใช้เป็นเครืองมือเพื่อติดต่อสื่อสารทุกประเภท เช่น การสื่อสารส่วนตัว การสื่อสารในการทำธุรกิจ เป็นต้น มีหลายประเภทเช่น - อีเมล - โปรแกรมแชท - โปรแกรมประชุมออนไลน์ · อีเมล จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ไปรษณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นเครื่องมือสื่อสารหลักในอินเทอร์เน็ต มีการใช้งานอย่างกว้างขวาง ผู้ใช้งานสามารถแนบเอกสารไปกับอีเมลได้ · แชทรูม การส่งข้อความในโปรมแกรมห้องแชทสนทนา คำว่า chat แปลว่า สนทนาอย่างเป็นกันเอง พื่อหาเพื่อนคุยในเรื่องที่สนใจเรื่องเดียว มีผู้อื่นร่วมห้องสรทนากับเราด้วย หรือ อาจะคุยแบบส่วนตัว นอกจากนี้ยังสนทนากันด้วยเสียงพูดผ่านไมโครโฟน หรือ ถ่ายภาพวิดีโอผ่านกล้องเว้บแคมได้อีกดวย เมสเซนเจอร์ ส่งข้อความด่วนแบบทันที ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เอกลักษณ์คือ สามารถรับส่งข้อมูลได้รวดเร็ว สามารถส่งข้อความให้เพื่อนๆ ที่อยู่ในรายการเพื่อนได้ ถึงแม้ว่าเพื่อนคนนั้นจะอยู่ชีกโลกหนึ่งก็ตาม 3. เครื่องมือเพื่อร่วมประสานงานแบบทันทีทันใด · เครื่องมือสำหรับทำงานร่วมกันทำงานเป็นกลุ่มในลักษณะออนไลน์ · ทำงานพร้อมๆ กันได้ · ซอฟแวต์ตัวแรก ต่อมาเมื่อเกิดเทคโนโลยี สามารถสร้างไฟล์ ทั้งเอกสารประมวนผลคำ เอกสารตารางคำนวนเอกสารนำเสนอ สามารถส่งคำเชิญ เพื่อให้ร่วมกันแก่ไขไฟล์เดียวกันได้ สามารถดูประวัติย่อยหลังของการดำเนินการได้ สามารถยิมให้คนอื่น ๆ เห็นข้อมูลได้ รวมไปถึงสามารถบันทึกเป็นไฟล์นามสกุลต่างๆ ได้ 4. ประเภทบริการเครือข่ายสังคม · Google บริการค้นหาข้อมูลนอินเทอร์เน็ต โดยค้นหาข้อมูลจากข้อความ หรือตัวอักษรที่พิมเข้าไปค้นหาข้อมูล รูปภาพ กลุ่มข่าว สารบบเว็บ หรือเว็บเพจที่เกี่ยวข้อง เป็นที่นิยมของผู้ใช้ เนื่องจากความสามารถที่หาข้อมูลได้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ และสามารถสมัครใช้งานเตรื่องมือของ Google ได้ฟรีอีกด้วย · Yahoo เป็นเครื่องมือค้นหาที่มีลักษณะเด่น คือ การค้นหาประเภท นอกจากนี้ยังมีบริการทางอินเทอร์เน็ตมากมาย บริการข่าวสารและรายงานต่างๆ ที่รวดเร็ว รวมทั้งบริการฟรีโฮมเพจ · Bing เป็นเครื่องมือค้นหาจากค่ายไมโครซอฟต์ แนวคิดของ Bing คือการเสริมคุนสมบัติพิเศษในการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เรียกกว่าถามอะไรเข้าไปก็เหมือนกับมีคนคอยตอบคำถาม รวบรวมเอาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลหลายแหล่งประกอบกันขึ้นมาจนกลายเป็นผลลัพธ์ที่น่าสนใจอีกด้วย
"'ความหมายของซอฟแวร์เครือข่ายสังคมออนไลน์"
· ซอฟต์แวร์ที่ทำให้ผู้คนสามารถนัดพบปะเชื่อมสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็นในเรื่องที่สนใจอย่างสร้างสรรค์ หรือทำงานร่วมกันโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง เกิดเป็นสังคมหรือชุมชนออนไลน์ ความหมายของซอฟต์แวร์เครือข่ายสังคมออนไลน์ แบ่งออกเป็น 4 ประเภทได้แก่ · 1.ประเภทของการบริหารจัดการความรู้ · 2.ประเภทเครื่องมือการติดต่อการสือสาร · 3. ประเภทเครื่องมือเพื่อร่วมประสานงานแบบทันทีทันใด · 4. ประเภทบริการสังคมเครือข่าย 1. ประเภทการบริหารการจัดการความรู้ · เครื่องมือประเภทจัดการความรู้ · เก็บเรื่องราว การบันทึก การถามคำถาม การตอบคำถาม · การแสดงความเห็นหรือมุมมองต่างๆ · ซอฟต์แวร์ในประเภทนี้ วิกิ (Wiki) · พัฒนาในด้สนการจัดการความรู้มากที่สุด · เปิดกว้างให้ทุกคนร่วมเขียนบทความ · เพิ่มและแก้ไขเนื้อหาได้โดยง่าย ซึ่งบางครั้งไม่จำเป็นต้องการลงทะเบียนเพื่อแก้ไข 2. ประเภทการติดต่อสื่อสาร · ใช้เป็นเครืองมือเพื่อติดต่อสื่อสารทุกประเภท เช่น การสื่อสารส่วนตัว การสื่อสารในการทำธุรกิจ เป็นต้น มีหลายประเภทเช่น - อีเมล - โปรแกรมแชท - โปรแกรมประชุมออนไลน์ · อีเมล จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ไปรษณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นเครื่องมือสื่อสารหลักในอินเทอร์เน็ต มีการใช้งานอย่างกว้างขวาง ผู้ใช้งานสามารถแนบเอกสารไปกับอีเมลได้ · แชทรูม การส่งข้อความในโปรมแกรมห้องแชทสนทนา คำว่า chat แปลว่า สนทนาอย่างเป็นกันเอง พื่อหาเพื่อนคุยในเรื่องที่สนใจเรื่องเดียว มีผู้อื่นร่วมห้องสรทนากับเราด้วย หรือ อาจะคุยแบบส่วนตัว นอกจากนี้ยังสนทนากันด้วยเสียงพูดผ่านไมโครโฟน หรือ ถ่ายภาพวิดีโอผ่านกล้องเว้บแคมได้อีกดวย เมสเซนเจอร์ ส่งข้อความด่วนแบบทันที ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เอกลักษณ์คือ สามารถรับส่งข้อมูลได้รวดเร็ว สามารถส่งข้อความให้เพื่อนๆ ที่อยู่ในรายการเพื่อนได้ ถึงแม้ว่าเพื่อนคนนั้นจะอยู่ชีกโลกหนึ่งก็ตาม 3. เครื่องมือเพื่อร่วมประสานงานแบบทันทีทันใด · เครื่องมือสำหรับทำงานร่วมกันทำงานเป็นกลุ่มในลักษณะออนไลน์ · ทำงานพร้อมๆ กันได้ · ซอฟแวต์ตัวแรก ต่อมาเมื่อเกิดเทคโนโลยี สามารถสร้างไฟล์ ทั้งเอกสารประมวนผลคำ เอกสารตารางคำนวนเอกสารนำเสนอ สามารถส่งคำเชิญ เพื่อให้ร่วมกันแก่ไขไฟล์เดียวกันได้ สามารถดูประวัติย่อยหลังของการดำเนินการได้ สามารถยิมให้คนอื่น ๆ เห็นข้อมูลได้ รวมไปถึงสามารถบันทึกเป็นไฟล์นามสกุลต่างๆ ได้ 4. ประเภทบริการเครือข่ายสังคม · Google บริการค้นหาข้อมูลนอินเทอร์เน็ต โดยค้นหาข้อมูลจากข้อความ หรือตัวอักษรที่พิมเข้าไปค้นหาข้อมูล รูปภาพ กลุ่มข่าว สารบบเว็บ หรือเว็บเพจที่เกี่ยวข้อง เป็นที่นิยมของผู้ใช้ เนื่องจากความสามารถที่หาข้อมูลได้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ และสามารถสมัครใช้งานเตรื่องมือของ Google ได้ฟรีอีกด้วย · Yahoo เป็นเครื่องมือค้นหาที่มีลักษณะเด่น คือ การค้นหาประเภท นอกจากนี้ยังมีบริการทางอินเทอร์เน็ตมากมาย บริการข่าวสารและรายงานต่างๆ ที่รวดเร็ว รวมทั้งบริการฟรีโฮมเพจ · Bing เป็นเครื่องมือค้นหาจากค่ายไมโครซอฟต์ แนวคิดของ Bing คือการเสริมคุนสมบัติพิเศษในการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เรียกกว่าถามอะไรเข้าไปก็เหมือนกับมีคนคอยตอบคำถาม รวบรวมเอาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลหลายแหล่งประกอบกันขึ้นมาจนกลายเป็นผลลัพธ์ที่น่าสนใจอีกด้วย
บทที่ 6. โลกไร้พรมแดน
บทที่ 6.
เว็บคืออะไร
world wide web คือกลุ่มของคอมพิวเตอร์ในอินเทอร์เน็ตที่ถูกเชื่อมต่อกันในแบบพิเศษ ที่ทำให้คอมพิวเตอร์เหล่านั้นสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เก็บไว้ภายในของแต่ละเครื่องได้ โดยผ่านบราวเซอร์
เว็บมาจากไหน
- www ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกโดยมีโครงการทางวิชาการในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างนักวิทยาศาสตร์ในทวีปยุโรป
- มีศูนย์กลางอยู่ที่ CERN
- บิดาของเว็บคือ Tim Berners-Lee คิดโครงการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารโดยใช้ระบบไฮแท็กซ์
- ปัจจุบันTim Berners-Lee ทำงานที่ world wide web Consrtium
เว็บในโลกปัจจุบันเหมือนใยแมงมุมที่มีการเชื่อมโยงการสื่อสารและเครือข่ายจากทั่วโลก โลกของอินเทอร์เน็ต ครอบครุมและเข้าถึงได้หลายทิศาง
โลกอินเตอร์เน็ตกับธุรกิจ
เหมือนเป็นโลกที่ทำให้เข้าถึง ตลาด กลุ่มลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมายได้อย่างง่าย รวดเร็ว และต้นทุนต่ำ
Web 1.0 ยุคแห่งการเริ่มต้น
- ไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก
- อุปกรณ์ในการใช้งานอินเทอร์เน็ตยังมีราคาแพง
- ค่าใช้จ่ายในการใช้งานมีราคาสูง
- ความเร็วในการเชื่อมต่อและความเร็วในการใช้งานยังมีจำกัด
- ทฤษฏีของการสื่อสารถือว่าเป็นการสือสารทางเดียว
Web 2.0 ยุคแห่งการพัฒนาการเชื่อมโยง
- อุปกรณ์ในการใช้งานอินเทอร์เน็ตมีราคาถูกลง
- จำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้น
- มีลักษณะการแบ่งปันความรู้ แลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกีนและกัน
Web 3.0 ยุคของการพัฒนาเว็บไซต์
- เว็บไซต์สามารถจัดการข้อมูลจำนวนมากได้ โดยเอาข้อมูลต่างๆที่มีอยู่มาจัดให้อยู่ในรูปแบบ Metadata
- Metadata หมายถึงข้อมูลทีสามารถบอกรายละเอียดได้ ทำให้ผู้เยียมชมสามารถเข้าถึงเนื้อหาของเว็บได้ดีขึ้น
Web 4.0 ยุคที่เว็บมีความฉลาด
- ความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับฑฤติกรรมของผู้ใช้
- ผู้บริโภคได้รับความสะดวกและได้รับข้อมูลที่พวกเขาต้องการมากที่สุด
- เว็บทีสามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง
- วิวัฒนาการของเว็บ
Web ในเชิง Social
การตลาดแบบปากต่อปาก หรือ Virtual Marketing
ลักษณะเด่นคือ ความรู้สึกใกล้ชิดที่เกิดขึ้นระหว่างคนที่สื่อสาร ท่ีช่องทางอื่นๆ ไม่สามารถทำได้ ผู้สื่อสารสามารถใส่ความเป็นกันเอง หรือตอบคำถามเฉพาะรายบุคคลได้ไม่ยาก จึงสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีกับผู้สร้างได้
"ความสามารถในการรองรับการขยายตัวของโลกอินเทอร์เน็ต"
1.การสื่อสาร
2.การค้นหาเส้นทาง
3.การเก็บข้อมูล
"ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต"
1.ด้านการศึกษา
2.ด้านธุรกิจ
3.ด้านการสื่อสาร
4.ด้านให้ความบันเทิง ข่าวสาร สิ่งที่น่าสนใจ
"โทษของอินเทอร์เน็ต"
1.อนาจารผิดศีลธรรม
2.เด็กติดเกมส์
3.ไวรัสคอมพิวเตอร์
4.ใช้อินเทอร์เน็ต วิธีการหลีกเหลียงปัญหาต่างๆ
"โปรแกรมประยุกต์บนอินเทอร์เน็ต" (Application on Internet)
เป็นพื้นที่เก็บไฟล์ฟรีแบบออนไลน์
- สามารถเรียกใช้ได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องพกพา
- เพื่อแบ่งปันให้กับเพื่อน ๆ บนอินเทอร์เน็ต
- สามารถเข้าใช้ไฟล์จากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดก็ได้ที่มีอินเทอร์เน็ต
- มีบริการ ออนไลน์สตรอรี่หลายบริษัท
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)