บทที่10. กฎหมายและจริยธรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
"กฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ"
โดยคณะกรรมการสารสนเทศแห่งชาติ กสทช ได้ทำการศึกษาและยกร่างกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ 6ฉบับ ได้แก่
กฎหมายเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
กฎหมายเกี่ยวกับลายมือชื่อลิเล็กทรอนิกส์
กฎหมายเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศให้ทั่วถึงและเท่าเทียมกัน
กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
กฎหมายเกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
กฎหมายเกี่ยวกับการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
1.กฎหมายเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
เพื่อรับรองสถานการณ์ทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้เสมอด้วยกระดาษ เป็นการรับรองนิติสัมพันธ์ จัดทำขึ้นอยู่ในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การลงลายมือชื่อในข้อมูล การรับฟังพยานหลักฐานที่อยู่ในรูปแบบของข้อมูลลิเล็กทรอนิกส์
2.กฎหมายเกี่ยวกับลายมือชื่อลิเล็กทรอนิกส์
เพื่อรับรองการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้เสมอด้วยการลงลายมือชื่อธรรมดา ส่งผลต่อความเชื่อมั่นมากขึ้นในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กำกับให้มีการดูแลการให้บริการเกี่ยวกับลายมือชื่อ
3.กฎหมายเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศให้ทั่วถึงและเท่าเทียมกัน
เพื่อก่อให้เกิดการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศแห่งรัฐตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 78 ในการกระจายสารสนเทศให้ทั่วถึงและเท่าเทียมกัน
ช่วยลดความเหลื่อมหล้ำของสังคมเพื่อสนับสนุนให้ท้องมีศักภาพในการปกครองและนำไปสู้สังคมแห่งปัญญาและการเรียนรู้
4.กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อก่อให้เกิดการรับรองสิทธิและให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลถูกประมวลผลเปิดเผยหรือเผยแพร่ถึงบุคลจำนวนมากได้ จนอาจก่อให้เกิดการนำข้อมูลนั้นไปใช้ในทางมิชอบอันเป็นการละเมิดต่อเจ้าของข้อมูล
5.กฎหมายเกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
กำหนดมาตรการทางอาญาในการลงโทษผู้กระทำผิดต่อระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ระบบข้อมูลและเครือข่าย เป็นกลักประกันสิทธิภาพและกรคุ้มครอง
6.กฎหมายเกี่ยวกับการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
กำหนดกลไกสำคัญทางกฎหมายในการรับรองระบบการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ระบบการชำระเงินของอิเล็กทรอกนิกส์ก่อให้เกิดต่อระบบการทำธุระกรรมทางการเงินและการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น
อาชญากรรมทางคอมพพิวเตอร์
อาชญากรทางคอมพพิวเตอร์หลายรูปแบบ จัดออกเป็น 9 ประเภท
1.การขโมยข้อมูลทางอินเตอร์
2.อาญชญากรเอาระบบการสื่อสารมาปกปิดความผิดของตน
3.การละเมิดสิทธิปลอบแปลงรูปร่าง
4.ใช้ข้อมูลแพร่ภาพที่ไม่แหมาะสม
5.การใช้คอมพิวเตอร์ฟอกเงิน
6.อันธพาลคอมพิวเตอร์ที่เข้าไปก่อกวน
7.หลอกลวงให้เข้าร่วมค้าขายหรือลงทุนปลอม
8.แทรกแซงข้อมูลแล้วนำมาเป็นประโยชน์
9.ใช้คอมพิวเตอร์แอบโอนเงินบัญชีผู้อื่นเข้าตันเอง
กรณีศึกษาอาชญากรรมและกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ
กรณีที่1 กฎหมายกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า นายจ้างหรือผู้บังคับบัญชาสามารถเปิดดูและตรวจสอบอีเมลของลูกจ้างได้รวมทั้งดูแฟ้มข้อม฿ลต่างๆในฮาร์ดดิสก์คอมพิวเตอร์ของบริษัทได้
กรณีที่2 หากต้องการ copy รูปภาพหรือข้อความบนเว็บไซต์ของผ็อื่นมาใช้งานจำต้องขออณุญาตเจ้าของเสียก่อน
กรณีที่3 การหมิ่นประมาททางอินเตอร์เน็ต สามารถฟ้องร้องได้ทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง
การกล่าวทำให้เกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียงเกียรติคุณ
กรณีที่4 การทำhyperlink ไม่ให้ละเมิดลิขสิทธิ์
การอ้างอิงเว็ปไซต์ของผู้อื่นมาใส่ในเว็บของเราควรขออนุญาตเจ้าของสิทธิ์ให้เรียบร้อย
กรณีที่5 โหลดโปรแกรมหรือเพลงทางอินเทอร์เน็ต
กรณีที่6ชื้อโปรแกรมลิขสิทธิ์มา copy
ตามกฎหมาย เรียกว่า ทำซ้ำ ซึ่งถือป็นการละเมิด แม้กฎหมายจะมีข้อยกเว้นให้ทำสำเนาโดยเจ้าของโปรแกรมทำได้ไม่ผิดกฎหมาย เพื่อการบำรุงหรือรักษาป้องกันการสูนหาย คือสำเนาได้เฉพาะ backup
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น